1661 จำนวนผู้เข้าชม |
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีอุตสาหกรรมอื่น ๆ ประกอบสร้างอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ การจำหน่ายทั้งในประเทศและการส่งออก รวมไปถึงธุรกิจการให้บริการมากหน้าหลายตา ที่ล้วนแล้วแต่มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
ประเทศไทยนั้น เริ่มรู้จักกับรถยนต์มาตั้งแต่ยุคสมัยของรัชกาลที่ 5 ที่มีการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปเข้ามาในอาณาจักรสยาม แต่กว่าจะเริ่มมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและเริ่มต้นของการเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ก็เพิ่งจะเริ่มในช่วงต้น ๆ ปี พ.ศ. 2500 หรือกว่า 60 ปีที่ผ่านมานี้เอง เมื่อเริ่มมีค่ายรถยนต์แสดงความสนใจประเทศไทย และตัดสินใจเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ครั้งแรกในประเทศไทยของเรา
การเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์นั้น ได้ค่อย ๆ ขยายเครือข่ายการผลิตรถยนต์ออกไปมากมาย ทำให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ขึ้นมามากมายในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่มีผู้ประกอบการชาวไทยอยู่ในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเทียร์ระดับไหน มีการผลิตที่หลากหลายขนาดไหนก็ตาม
กลุ่มผู้ผลิต Automotive Parts ในประเทศไทยนั้นมีการขยายตัวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ยกตัวอย่างเช่น ในกลุ่มงานโลหะนั้น ประเทศไทยมีตั้งแต่โรงงานปั๊มโลหะธรรมดา โรงงานปั๊มโลหะคุณภาพสูง ไปจนถึงโรงงานประกอบและผลิตชิ้นส่วนโลหะขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับความต้องการในการผลิตรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีการประเมินว่ามีโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศมากกว่าหมื่นรายที่ทำการผลิตอยู่
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการมุ่งเน้นไปที่การใช้ยานยนต์พลังงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฮบิด ระบบปลั๊กอินไฮบริด หรือแม้แต่ยานยนต์ไฟฟ้า จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในหลากมิติ ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะต้องทำการปรับตัวเพื่อให้สามารถก้าวตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ได้ทัน
ถือเป็นเทรนด์ของโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รูปแบบใหม่ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้
การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์นั้น ก็คือการผลิตชิ้นส่วนเพื่อใช้ในรถยนต์แต่ละคันที่ผลิตออกมา โดยโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลายรายจะเป็นผู้นำเสนอเทคโนโลยีในการผลิตรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์เสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรอบหลายปีที่ผ่านมา ก็คือเทคโนโลยีของรถยนต์มีการใช้งานเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ก็ต้องปรับตัวเช่นเดียวกัน
เทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นระบบไฮบริดไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้งานชิ้นส่วนยานยนต์ไปอย่างมาก ทั้งในเรื่องของจำนวนชิ้น ปริมาณการใช้งานและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ ที่เข้ามาทำให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอย่างมากมาย
ยกตัวอย่างเช่น โรงงานปั๊มโลหะหรือโรงงานผลิตชิ้นส่วนโลหะ เมื่อค่ายรถยนต์มีการเปลี่ยนมาใช้งานวัสดุรูปแบบใหม่ ๆ แทนที่เหล็กแบบเดิม เพื่อให้ได้ผลจากน้ำหนักของรถที่เบาลง หรือการเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น แน่นอนว่าโรงงานเหล่านี้ก็ต้องมีการปรับตัวตาม ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีการผลิตไปในระดับเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง
หากพูดถึงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในอดีต หลาย ๆ คนอาจจะมองเห็นภาพของโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดเล็ก ที่อาจจะเริ่มต้นจากแท่นปั๊มโลหะไม่กี่แท่น หรือมีสายการผลิตที่ทำงานด้วยแรงงานมนุษย์ในการควบคุมทุกอย่าง ซึ่งภาพของอุตสาหกรรมในรูปแบบเดิม ๆ จะเริ่มหายไป และถูกทดแทนด้วยเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ซึ่งรูปแบบนี้เป็นมาหลายปีแล้ว สำหรับโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย
สำหรับในปัจจุบัน ผู้ผลิตชิ้่นส่วนยานยนต์รายใหญ่ก็ยังเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องเทคโนโลยีการผลิต การนำระบบออโตเมชั่นต่าง ๆ เข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ที่สามารถรองรับได้ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ซึ่งทำให้ประเทศไทย ยังเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลกอยู่เช่นเดิมมาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม จากกระแสในการพัฒนาการผลิตของโลกเรา ที่มีแนวโน้มว่าผู้ผลิตรถยนต์นั้นจะมุ่งเน้นไปที่การใช้ฐานการผลิตแต่ละแห่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะใช้ฐานการผลิตที่ลดลง และมีการผลิตที่กระจุกตัวในไม่กี่ประเทศ ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนก็ต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน เพื่อไม่ให้หลุดขบวนจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากทั่วโลก
มีการคาดการณ์ว่า การมาถึงของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อย่างมาก จากความต้องการในการในงานชิ้นส่วนยานยนต์ที่ลดน้อยลงไปจากเดิม โดยมีการประเมินแล้วว่า ความต้องการใช้การใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ของรถยนต์ไฟฟ้าจะลดลงไปประมาณ 25% เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขหลักที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะต้องปรับตัว
โครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เอง จะทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีความพร้อม มีโครงสร้างการผลิตที่หลากหลายและยืดหยุ่นกว่า จะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มารองรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ซึ่งหากมองไปในอนาคตที่มีการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวไปรองรับนวัตกรรมใหม่ ๆ เหล่านี้
เราจึงเห็นการร่วมมือกันหรือการควบรวมกิจการของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลกอย่างมากมายในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งแน่นอนว่ารวมไปถึงงานพื้นฐานอย่างการผลิตชิ้นส่วนโลหะหรือ Automotive parts รูปแบบอื่น ๆ ก็อยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน
แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระดับประเทศและระดับโลก แต่อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ก็ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มในการเติบโตที่ชัดเจน เพราะไม่ว่ารถยนต์จะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด ก็ยังต้องใช้ชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการผลิตรถยนต์กันอยู่ดี เพียงแต่ผู้ประกอบการเอง ก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงให้ว่องไว เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
แม้จะเปลี่ยนแปลงในเชิงเทคโนโลยีการขับเคลื่อน รถยนต์ก็ยังต้องใช้งานชิ้นส่วนโลหะ ยังต้องพึ่งบริการของโรงงานปั๊มโลหะเป็นพื้นฐานเหมือนเช่นเคย แต่อาจจะต้องการสินค้าที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แปลกใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์นั้น จะต้องพิจารณาและปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์อีกสักกี่ครั้ง ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีศักยภาพในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ก็จะสามารถเดินหน้าซัพพลายชิ้นส่วนที่สำคัญ ๆ ในการผลิตรถยนต์ต่อไปได้ และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไประดับสากลได้อีกต่างหาก
แม้ว่าหลาย ๆ คนจะคาดการณ์ว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะได้รับผลกระทบจากการมาถึงของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ แต่ในมุมมองของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งของการเปลี่ยนแปลง ที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะต้องเจอมาตลอดของการดำเนินธุรกิจ และถือเป็นความท้าทายอีกครั้ง ที่จะต้องทำการปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือเทคโนโลยีที่จะเติบโตไปเพียงใด หากมีความพร้อมในการปรับตัวแล้ว ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน ดังนั้นเรา บริษัท สยาม เมทัล เวอร์ค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตชิ้นส่วนโลหะ ชั้นนำของไทย และมีมาตรฐานการรับรอง รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตชิ้นส่วนโลหะ DIE และ jig ตามแบบ Drawing ปั๊มโลหะตามแบบ ปั๊มขึ้นรูปโลหะ ปั๊มเหล็ก ปั๊มโลหะ ชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นงานโลหะ มากกว่า 16 ปี บริษัทฯ ดำเนินการมุ่งตอบสนองสร้างความเชื่อมั่น และความพึ่งพอใจต่อลูกค้า ทำให้บริษัทเป็นที่ยอมรับ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงบริษัทฯ ยึดมั่นในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านคุณภาพ การจัดส่ง และบริการพร้อมทั้งมีการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
ดูรายละเอียดสินค้าและบริการ รวมถึงเครื่องจักรของเรา ได้ที่นี่
ติดต่อ บริษัท สยาม เมทัล เวอร์ค แมนูแฟคเจอริ่ง
โทร : 02-1166303
อีเมล : info@siammetalwork.com